เยี่ยม “รร.บ้านแสนสุข” จ.สระแก้ว ในโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน กับการบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่ช่วงโควิด-19

    เยี่ยม “รร.บ้านแสนสุข” จ.สระแก้ว ในโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน กับการบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่ช่วงโควิด-19

เปิดเทอมใหม่หลังโควิด-19 น้องๆ รร.บ้านแสนสุข ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กลับมาเรียนและทำกิจกรรมตามวิถีปกติใหม่ (New Normal) ระมัดระวังการเว้นระยะห่างในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ขณะที่เช้าวันนี้ เด็กๆ ชวนกันไปที่โรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ที่พวกเขาช่วยกันเลี้ยง ดูแล และช่วยกันเก็บผลผลิตไข่ไก่เพื่อมาเป็นอาหารกลางวัน

รร.บ้านแสนสุข เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน และยังเป็นตัวอย่างของการบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่จากโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนและถ่ายทอดความรู้การเลี้ยงไก่ไข่ CPF และ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ส่งเสริมนักเรียนเลี้ยงไก่ไข่เพื่อนำผลผลิตไข่ไก่ส่งเข้าโครงการฯ และอีกส่วนหนึ่งจำหน่ายให้กับชุมชน โดย CPF สร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่และปัจจัยการผลิต ทั้งพันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ ให้แก่โรงเรียนผ่านระบบสมาชิกโครงการ พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่สัตวบาลมาให้ความรู้ คำปรึกษาในการเลี้ยงและการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ถูกต้องตามหลักวิชาการและการสุขาภิบาล

ในช่วงสถานการณ์โควิดซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอม โรงเรียนไม่ต้องนำไข่ไก่มาทำอาหารกลางวันให้นักเรียน แต่นักเรียนยังได้ทานเมนูที่นำไข่ไก่มาปรุงอาหาร เนื่องจากโรงเรียนทำอาหารเพื่อแจกจ่ายให้แก่เด็กนักเรียนและชุมชนวันเว้นวัน ได้แก่ เด็กกัมพูชาและเด็กไทย ซึ่งบางคนมาทานที่โรงเรียน บางคนมารับข้าวห่อกลับไปทานที่บ้าน รวมถึงคนในชุมชนที่ยากไร้ คนตกงาน ก็มาทานอาหารที่โรงเรียนทำไว้เพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้ที่เดือดร้อนได้

“บรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ” ผอ.โรงเรียนบ้านแสนสุข เล่าว่า ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ช่วยโรงเรียนและชุมชนได้มากที่สุด เนื่องจากเก็บผลผลิตได้วันละ 4 แผง (120 ฟอง) ก็จะนำมาจำหน่ายให้แก่ชุมชน 3 แผง ในราคาย่อมเยา แผงละ 80 บาท ส่วนอีก 1 แผง จะใส่ตู้ปันสุขของชุมชน ในทุกๆ 5 วัน โรงเรียนจะนำไข่ไก่ใส่ถุงๆ ละ 5 ฟอง พร้อมข้าวสาร 1 กิโลกรัม 30 ชุด ไปใส่ตู้ปันสุข รวม 7 ครั้ง นับเป็นการบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่ในโครงการฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในช่วงวิกฤต และยังจัดการการสูญเสียอาหารไปสู่การบริโภคอย่างยั่งยืน

“โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ช่วยนักเรียนและชุมชนได้มากที่สุด เห็นได้ชัดเจนในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด โรงเรียนนำเงินสำรองจากการจำหน่ายไข่ไก่มาซื้อวัตถุดิบ เช่น ข้าวสารใส่ในตู้ปันสุขของชุมชน และซื้อเนื้อหมูมาปรุงอาหารเพื่อแจกจ่ายให้แก่เด็กนักเรียนและคนในชุมชนที่เดือดร้อน” ผอ.โรงเรียนบ้านแสนสุข กล่าว

ด.ญ.ชมพูนุช เพ็งบุญโสม หรือน้องกล้วยหอม นร.ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่าอย่างอารมณ์ดีว่า ช่วงปิดเทอมมีการระบาดของโควิด-19 โรงเรียนช่วยเหลือชุมชนและนักเรียน โดยนำไข่ไก่ขายให้ชุมชนและทำอาหารเพื่อแจกจ่ายให้นักเรียนและชาวบ้าน เช่น ข้าวผัดไข่ ไข่พะโล้ ผัดบวบใส่ไข่ แจกทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ หนูได้ทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง และผลผลิตไข่ไก่ที่เหลือยังนำไปใส่ในตู้อิ่มสุขตามจุดต่างๆ ของอำเภอ ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนช่วงโควิดได้อีกด้วย

รร.บ้านแสนสุข เป็นโรงเรียนขนาดเล็กอยู่ในถิ่นทุรกันดารติดแนวชายแดนกัมพูชา เปิดการเรียนการสอนระดับชั้นอนุบาล- ป.6 เด็กนักเรียน 70% เป็นชาวกัมพูชา และ 30 % เป็นเด็กไทย โรงเรียนเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ เมื่อปี 2562 มีเป้าหมายส่งเสริมเด็กและเยาวชนเข้าถึงอาหารและโภชนาการที่ดี บรรเทาปัญหาทุพโภชนาการ และเด็กๆ สามารถเรียนรู้ทักษะอาชีพเลี้ยงไก่ไข่เพื่อนำไปใช้ได้ปฏิบัติได้จริง รวมทั้งต่อยอดให้โรงเรียนเป็นแหล่งอาหารที่ยั่งยืน ปัจจุบันมีโรงเรียนทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 855 โรงเรียน./

Share

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้แก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้สามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาให้เหมาะสมแก่ท่านอย่างเป็นส่วนตัวได้ การเก็บและใช้งานคุกกี้สามารถศึกษาได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้นี้ การใช้งานเว็บไซต์นี้จะมีการจัดเก็บคุกกี้ประเภทต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องยอมรับและยินยอมให้บริษัทฯ จัดเก็บ (เรียนรู้เพิ่มเติม)