เลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ไก่มีอายุถึง 3 ปี ไข่ขายได้ราคาดี

เลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ไก่มีอายุถึง 3 ปี ไข่ขายได้ราคาดี

ในยุคนี้ในเรื่องของวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหาร กำลังได้รับความใส่ใจมากขึ้นจากผู้บริโภคโดยมุ่งเน้นไปในเรื่องของการกินผักอินทรีย์ ตลอดไปจนถึงผักที่ปลอดภัยในการผลิต จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้เกษตรกรมีการปรับตัวในเรื่องของการผลิต เพื่อให้สินค้าของตนเองเป็นที่ต้องการของตลาดและจำหน่ายได้ราคาสูงขึ้น อย่างเกษตรกรทางด้านปศุสัตว์ก็ได้มีการผลิตอาหารให้ปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการเลี้ยงสัตว์ให้ปลอดจากยาปฏิชีวนะต่างๆ หรือการเลี้ยงให้สัตว์มีอารมณ์ดี ก็จะช่วยให้ได้เนื้อสัตว์หรือวัตถุดิบที่มีคุณภาพ

อย่างการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดีในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้ไก่ไม่เครียดแล้ว ยังส่งผลไปถึงคุณภาพของไข่ให้มีลักษณะที่พิเศษกว่าไข่ไก่ที่เลี้ยงในระบบทั่วไป ทำให้ไก่ไข่ที่ผ่านการเลี้ยงด้วยวิธีนี้เป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการ

คุณปัฐยาวดี แจงเชื้อ เกษตรกรชาวจังหวัดจันทบุรี ได้มีการปรับเปลี่ยนจากการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี มาสู่การเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ไข่ทุกฟองแม้มีขนาดที่แตกต่างกัน แต่สามารถจำหน่ายได้ในราคาเดียวกัน ส่งผลให้การเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์นอกจากจะให้ราคาที่ดีแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการกำจัดวัชพืชและถ่ายมูลออกมาเป็นปุ๋ยชั้นดีให้กับสวนผลไม้ของเธอด้วย

คุณปัฐยาวดี เล่าว่า ภายในสวนผลไม้ที่อยู่บริเวณบ้านของเธอนั้น สร้างเป็นสวนไม้ผลอินทรีย์มาโดยตลอด โดยทุกขั้นตอนการผลิตจะไม่มีการนำปุ๋ยเคมีหรือสารเคมีเข้ามาช่วยผลิต เมื่อสวนไม้ผลอินทรีย์เริ่มอยู่ตัวเกิดความคิดที่อยากจะสร้างการผลิตให้มีความหลากหลายมากขึ้น จึงได้นำไก่ไข่เข้ามาเลี้ยงโดยปล่อยให้อยู่บริเวณสวนได้ประโยชน์หลายต่อ ทั้งจากการมีไก่ไข่ช่วยกำจัดวัชพืชและได้มูลไก่มาเป็นปุ๋ยใช้ภายในสวนผลไม้

“ไข่ไก่นี่ก็ถือว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ที่เราสามารถกินได้ทุกวัน เราเลยมองว่าถ้าเอามาเลี้ยงภายในสวนก็น่าจะได้ประโยชน์หลายต่อ ทั้งการเลี้ยงเพื่อได้ไข่ขาย และเป็นตัวช่วยในการกำจัดวัชพืช เลยมาแบ่งจัดโซนการเลี้ยงภายในสวน เพื่อให้ไก่ได้อยู่ทั่วบริเวณ จากนั้นเมื่อไก่ถ่ายออกมา มูลที่ได้ก็เป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้ไปด้วย เป็นการเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ ทำให้นอกจากเป็นไก่ไข่อารมณ์ดีแล้ว ไก่ของเรายังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอินทรีย์ พร้อมทั้งให้อาหารที่ผลิตด้วยระบบอินทรีย์ทั้งหมด จึงช่วยให้การเลี้ยงในระบบนี้ของเราไม่มีปัญหา” คุณปัฐยาวดี บอก

เมื่อการเลี้ยงไก่ไข่ต้องให้ได้ปริมาณของโปรตีนที่เพียงพอในการเจริญเติบโต จึงได้หาผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นแหล่งของโปรตีน เช่น แหนแดง และหญ้าเนเปียร์อิสราเอล เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญในการนำมาเสริมให้ไก่ไข่กินและช่วยประหยัดต้นทุนการผลิตมากขึ้น

พื้นที่สำหรับโรงเรือนสร้างให้มีพื้นที่สำหรับวางไข่ และภายในจะมีไม้ไว้ให้ไก่ได้ขึ้นไปเกาะนอน โดยไก่ไข่ที่นำมาเลี้ยงเป็นไก่อายุ 1 วัน มากกด้วยไฟฟ้าเป็นเวลา 13 วัน ในช่วงแรกให้กินอาหารลูกไก่เล็กและอาหารไก่ปกติไปจนไก่ไข่มีอายุ 3-4 เดือน

จากนั้นเมื่อไก่ไข่จะได้อายุที่เริ่มออกไข่ได้ ต้องทำการปรับเปลี่ยนด้วยการให้ไก่อาหารที่เป็นสูตรอินทรีย์เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนใช้เวลาประมาณ 45 วัน ไก่ไข่ก็จะได้อายุพร้อมที่จะออกไข่ทันที

“พอไก่ได้อายุที่ไข่ได้แล้ว อย่างช่วงเช้าเราก็จะปิดโรงเรือนไว้ก่อน ให้ไก่อยู่ในโรงเรือนเพื่อไข่ในเวลาเช้า พอช่วงบ่ายๆ ก็จะเปิดให้ไก่ออกจากโรงเรือนเพื่อไปคุ้ยเขี่ยยามบ่าย หลังจากกลับเข้าโรงเรือนในช่วงเย็นแล้วก็จะนำอาหารมาให้กินอีกครั้ง ที่มีส่วนผสมของกากถั่วเหลือง ข้าวโพด เป็นต้น เป็นวัตถุดิบที่ปลูกแบบอินทรีย์มาเสริมให้ไก่กิน จึงมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนการผลิตของการเป็นระบบอินทรีย์จริงๆ ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานปศุสัตว์” คุณปัฐยาวดี กล่าว

ในเรื่องของการป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้นกับไก่ไข่ภายในฟาร์มนั้น คุณปัฐยาวดี บอกว่า ตั้งแต่เลี้ยงมายังไม่เกิดโรคที่ทำให้ไก่ไข่ตาย เพราะการเลี้ยงไม่ได้ให้ไก่อยู่อย่างแออัด และที่สำคัญไก่ได้เดินเล่นและคุ้ยเขี่ยอยู่ทุกวัน จึงทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรงไม่เจ็บป่วยได้ง่าย พร้อมทั้งนำจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มาผสมเข้ากับอาหาร จึงเป็นตัวช่วยเมื่อไก่ถ่ายมูลออกมาไม่มีกลิ่นเหม็น

ไก่ไข่ที่เลี้ยงในแต่ละรอบการผลิตอยู่ที่ 500 ตัว สามารถให้ไข่ต่อวันมากสุดอยู่ที่ 200-250 ฟอง ต่อวัน โดยจะเก็บจำหน่ายวันต่อวันและขายให้หมดในวันนั้น เพื่อให้ได้ไข่ที่สดใหม่อยู่เสมอเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายที่ลูกค้าเกิดความเชื่อใจ ซึ่งราคาจำหน่ายไข่ไก่อินทรีย์ราคาอยู่ที่ฟองละ 6 บาท

“ไข่นี่ถือว่าเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี เราเองก็กินเองเป็นประจำในทุกๆ เช้า ยิ่งพอเรามาเลี้ยงเองก็เชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำด้วยความใส่ใจก็สามารถส่งต่อไปยังลูกค้าให้เขาได้กินอาหารที่ดีมีประโยชน์ ส่วนคนที่สนใจอยากจะเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ก็อยากจะบอกว่าการทำแบบนี้สามารถเลี้ยงได้ โดยมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ของเราก่อน จากนั้นก็เริ่มหาวัตถุดิบที่ปลูกแบบอินทรีย์มาให้ไก่ไข่กิน พร้อมทั้งเลี้ยงตามมาตรฐานที่สำนักงานปศุสัตว์กำหนด ก็จะทำให้การเลี้ยงไก่ไข่เป็นอาชีพที่สร้างรายได้อย่างแน่นอน” คุณปัฐยาวดี กล่าวแนะ

ข้อมูลโดย : https://www.technologychaoban.com/livestock-technology/article_116991

Share

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้แก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้สามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาให้เหมาะสมแก่ท่านอย่างเป็นส่วนตัวได้ การเก็บและใช้งานคุกกี้สามารถศึกษาได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้นี้ การใช้งานเว็บไซต์นี้จะมีการจัดเก็บคุกกี้ประเภทต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องยอมรับและยินยอมให้บริษัทฯ จัดเก็บ (เรียนรู้เพิ่มเติม)