“ไทยแบล็ค” โคขุนทางเลือกเนื้อระดับพรีเมียม

“โคเนื้อพันธุ์ไทยแบล็ค” (Thai Black) เป็นโคเนื้อที่มีการพัฒนาสายพันธุ์จากกรมปศุสัตว์ โดยใช้โคไทยหรือโคพื้นเมืองเป็นสายพันธุ์ตั้งต้น เนื่องจากสามารถปรับตัวเข้ากับภูมิอากาศและวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศได้เป็นอย่างดี ผสมพันธุ์กับโคพันธุ์แองกัส ซึ่งเป็นโคที่มีอัตราการเติบโตเร็ว ไม่มีเขา คลอดง่าย ไขมันแทรกสูง เนื้อนุ่มและมีความสมบูรณ์พันธุ์ดี

โคไทยแบล็คจึงเป็นโคขนาดกลาง น้ำหนักขุนเต็มที่ตัวผู้ไม่เกิน 600 กิโลกรัม ตัวเมียไม่เกิน 500 กิโลกรัม เจริญเติบโตไว เนื้อเต็มและมีไขมันแทรกเร็ว เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ได้จากพันธุกรรมของโคไทยและโคแองกัส ที่สำคัญประสิทธิภาพในการใช้อาหารจะดีกว่าโคสายพันธุ์อื่นๆ เพราะโคพื้นเมืองจะเหมาะกับสภาพภูมิอากาศหรือภูมิประเทศนั้นๆ และเหมาะกับวัตถุดิบอาหารสัตว์ในพื้นที่นั้นด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นโคสายพันธุ์ใดก็ตามหากมีสายเลือดของโคไทยผสมอยู่ ส่วนใหญ่การขุนจะง่ายกว่าโคสายพันธุ์ต่างประเทศ

“กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อไทยแบล็ค โคราช” ตั้งอยู่เลขที่ 500 หมู่ 7 ตำบลขามทะเลสอ อำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา ได้นำโครงการจากสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ผู้พัฒนาปรับปรุงพันธุ์โคเนื้อพันธุ์ไทยแบล็คมาต่อยอด และจัดตั้งกลุ่มฯขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่มีความคิดเดียวกัน เลี้ยงโคเหมือนกัน และมีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน คือ ผลิตเนื้อโคเกรดพรีเมียม เพื่อตอบสนองผู้ที่นิยมบริโภคเนื้อโค และมีตลาดรองรับ โดยใช้วิธีการเลี้ยงอย่างประณีตไม่ใช่การเลี้ยงแบบไล่ทุ่งเหมือนก่อนหน้านี้ และอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญคือ ผลิตเนื้อโคคุณภาพสูงและผู้เลี้ยงจะต้องมีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน

บทบาทของกลุ่มฯ มีหน้าที่ให้ข้อมูล ความรู้ วิธีการเลี้ยงและการขุนที่จะทำให้ได้โคเนื้อที่มีคุณภาพ จัดหาแม่พันธุ์ และจัดหาโคเข้าขุน ตลอดจนรวบรวมผลผลิต และตลาดรองรับ รวมถึงดูแลผลประโยชน์โดยตรงให้กับสมาชิก เช่น การส่งโคขุนเข้าโรงเชือดและแปรรูป ทางวิสาหกิจฯ จะมีคณะกรรมการตรวจเช็คโคก่อนที่จะมีการส่งแปรรูป โดยเช็ครูปร่างและน้ำหนักผ่านเกณฑ์หรือไม่ ขั้นตอนของการแปรรูป การตัดเกรดวัดคุณภาพเนื้อ เพื่อเป็นตัวชี้วัดด้านราคา ซึ่งคณะกรรมการจะมีหน้าที่ติดตามจนเสร็จสิ้นกระบวนการหรือจนกว่าสมาชิกจะได้รับเงิน นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ติดต่อประสานงานเป็นสื่อกลางกับทางราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบันกลุ่มฯ มีสมาชิก 50 ราย ในเขตอำเภอสีคิ้ว ,โนนสูง , ขามสะแกแสง , สูงเนิน , ขามทะเลสอและจักราช จังหวัดนครราชสีมา อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ บุรีรัมย์และจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งขณะนี้ได้จัดระบบและควบคุมคุณภาพสมาชิกมากขึ้น พร้อมกับจัดกลุ่มสมาชิกว่าเหมาะสมกับการเลี้ยงแบบใด เช่น เลี้ยงแม่พันธุ์ผลิตลูกโคขุน หรือขุน เป็นต้น เพื่อให้ได้โคขุนที่มีคุณภาพ และการสร้างคอกกลาง เพื่อนำโคมาขุนรวมกัน โดยมีการบริหารจัดการเหมือนกัน ใช้อาหารสูตรเดียวกัน รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ที่เหมือนกัน เพื่อให้ได้โคขุนคุณภาพเกรดพรีเมียม ซึ่งโครงการนี้ได้ผ่านการอนุมัติจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เรียบร้อยแล้ว

สำหรับสมาชิกพร้อมที่จะมีการปรับเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นวิธีการขุน สายพันธุ์ และพร้อมที่จะลงทุน และเต็มใจที่จะพัฒนายกระดับฟาร์มให้มีมาตรฐานมากขึ้น อย่างเช่น ปัจจุบันทุนที่ได้จากรัฐบาลเป็นเงินกู้ของกรมปศุสัตว์อนุมัติให้สร้างโรงเรือน ซื้อแม่พันธุ์ใหม่ โดยคณะกรรมการจะกำหนดว่าจะต้องเป็นแม่พันธุ์ที่มาจากกลุ่มเท่านั้น โดยสมาชิกพร้อมที่จะปรับวิธีการเลี้ยงให้อยู่ในรูปแบบที่วิสาหกิจกำหนดไว้

“เนื่องจากเรามีแนวทางและแผนการตลาดที่ชัดเจน มีกระบวนการเลี้ยงที่ดี และมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา เพราะทุกขั้นตอนในการเลี้ยงสำคัญเหมือนกันทั้งหมด จึงอยากให้สมาชิกพร้อมก้าวไปด้วยกัน ในการรวมกลุ่มนี้ไม่ได้รวมกลุ่มเพื่อเอื้อผลประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นการรวมกลุ่มขึ้นมาเพื่อก้าวไปด้วยกัน” คุณกฤษฎาประธานกลุ่มกล่าว

การคัดเลือกสายพันธุ์ สำหรับให้สมาชิกเป็นผู้เลี้ยง ได้มีการกำหนดอย่างชัดเจนแล้วว่าจะต้องเป็นโคสายพันธุ์ใด และเลือดกี่เปอร์เซ็นต์ โดยที่หลักๆจะต้องมีเลือดของโคไทย เมื่อผสมพันธุ์แองกัสเข้าไปจะทำให้การขุนง่าย โตไว อัตราการแลกเนื้อดี ตอบสนองต่ออาหารค่อนข้างดี ระยะเวลาในการขุนสั้น และที่สำคัญคุณภาพเนื้ออยู่ในเกรดที่ต้องการ

“เดิมได้ทดลองขุนโคที่ไม่มีฐานเป็นโคพื้นเมืองไทยผสมอยู่ ขุนโดยใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีอยู่ในพื้นที่หรือภูมิภาคนั้นๆ บางช่วงหรือบางฤดูกาลคุณภาพวัตถุดิบอาหารสัตว์ไม่นิ่งผลลัพธ์ที่ได้โคไม่โตหรือคุณภาพเนื้อไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด แต่สำหรับโคไทยแบล็คที่มีพื้นฐานเป็นโคพื้นเมือง ผสมกับแองกัสเข้าไป ทำให้ประสิทธิภาพการใช้อาหารดีขึ้น เนื่องจากโคแองกัสเป็นโคเนื้อฝั่งยุโรปที่มีอัตราการแลกเนื้อดี โดยที่ขนาดตัวไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก ขุนง่าย เต็มโครงเร็ว ยิ่งเมื่อนำมาผสมพันธุ์กับโคพื้นเมืองอัตราการแลกเนื้อก็ยิ่งดีขึ้น จึงทำให้ระยะเวลาในการเลี้ยงสั้นลงประมาณ 400 วัน ก็สามารถจำหน่ายเข้าโรงเชือดได้ อีกทั้งมองว่าโคไทยแบล็คเป็นสายพันธุ์ที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาของเกษตรกรได้อย่างลงตัว เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงไม่นาน จึงสามารถประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการขุนได้”

กรมปศุสัตว์สนับสนุนและมีฐานพันธุ์ที่ทางกรมปศุสัตว์ได้ผสมเทียมไว้กับเกษตรกร โดยมีการคัดเลือกคุณสมบัติตามที่วางไว้ขึ้นมาเป็นแม่พันธุ์ โดยตัดโคที่มีเลือดบราห์มันออก เพราะเลือดบราห์มันจะโตช้า และใช้โคพื้นเมืองที่มีลักษณะตัวเล็ก ถึงแม้จะเป็นลูกผสมแองกัสก็จะคัดเลือกตัวเล็ก แต่เมื่อได้รับอาหารหรือหญ้าที่เพียงพอโคจะโตและอ้วนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องเสริมด้วยอาหารข้น ส่วนแนวทางการพัฒนากลุ่มให้สอดคล้องกับการใช้วัตถุดิบทางการเกษตรในพื้นที่ เช่น เกษตรกรหรือชาวไร่ที่มีพื้นที่อยู่แล้ว ก็สามารถเปลี่ยนจากการปลูกพืชไร่ที่มีราคาถูกมาปลูกหญ้าเนเปียฯ หรือปลูกมันสำปะหลัง เพื่อนำมาสับให้โคกิน หรือปลูกต้นข้าวโพดฝักอ่อนเป็นพืชอาหารสด เป็นต้น

เนื้อโคไทยแบล็คปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งมีความต้องการสูงมาก เนื่องจากเป็นเนื้อที่นุ่ม มีไขมันแทรก รสชาติอร่อย อีกทั้งหลายคนทราบประวัติความเป็นมาของโคไทยแบล็คว่ามีที่มาอย่างไร เมื่อได้ทดลองแล้วเกิดการบอกต่อ ปากต่อปาก อย่างรวดเร็ว “ต้องยอมรับว่าโคเนื้อไทยแบล็คตลาดต้องการสูง เพราะผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจโคไทยกันมาก เพราะทางกลุ่มได้เพิ่มศักยภาพในการผลิต โดยเน้นคุณภาพมากกว่าจำนวนการผลิต”
ที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เนื้อโคไทยแบล็คไม่เหมือนเนื้อโคชนิดอื่นๆ ทั้งความนุ่มลิ้น ไม่เหนียว ความหอมของเนื้อเพียงแค่ย่างโรยเกลือกับพริกไทยก็สามารถกินได้ โดยไม่ต้องใช้น้ำจิ้ม ผู้ที่ได้ลิ้มลองเนื้อโคไทยแบล็ครับรองติดใจอย่างมาก เพราะรสชาติกลมกล่อม ที่สำคัญราคาไม่แพง ทางกลุ่มฯ จะผลิตโคให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด และทำให้สมาชิกมีความภาคภูมิใจในการผลิตโค ซึ่งเป็นอาชีพที่มั่นคง ที่สำคัญสร้างมาตรฐานและทำทุกส่วนให้นิ่งไม่ว่าจะเป็นต้นน้ำที่เลี้ยงแม่พันธุ์ผลิตโคขุน กลางน้ำ (ฟาร์มขุน) และตลาด (ปลายน้ำ) โดยจะเน้นให้ความสำคัญหรือฐานให้มั่นคงก่อน จึงค่อยต่อยอดในส่วนต่อไป จากนั้นจะทำให้โคไทยแบล็ค คือ “ทางเลือกหลักของเนื้อโคไทยที่มีคุณภาพ”

ข้อมูลโดย : ปศุศาสตร์ นิวส์ http://pasusart.com/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0
%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%
B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%
B8%97%E0%B8%B2/

Share

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้แก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้สามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาให้เหมาะสมแก่ท่านอย่างเป็นส่วนตัวได้ การเก็บและใช้งานคุกกี้สามารถศึกษาได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้นี้ การใช้งานเว็บไซต์นี้จะมีการจัดเก็บคุกกี้ประเภทต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องยอมรับและยินยอมให้บริษัทฯ จัดเก็บ (เรียนรู้เพิ่มเติม)